bookmark_borderไม่อยากโดนยุงกัดเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการไม่ทานเผ็ด ไม่ใส่น้ำหอม

ไม่อยากโดนยุงกัดเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการไม่ทานเผ็ด ไม่ใส่น้ำหอม ยุงเป็นศัตรูตัวร้ายที่ทำให้พวกเราตื่นในตอนกลางคืน แล้วก็ส่งผลให้เกิดอาการคันแสนไม่น่าสนใจ นอกจากยุงบางประเภทยังเป็นพาหะนำโรคมาสู่คนอีกด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ยุงกัด รวมถึงไม่ให้ยุงมารบกวน แนวทางกลุ่มนี้เป็นแนวทางแล้วก็เทคนิคกล้วยๆที่สามารถช่วยลดไม่ให้ยุงใกล้พวกเราอีกด้วย

– พากเพียรอย่าให้เหงื่อไหลมากเกินความจำเป็น ยุงถูกเย้ายวนใจด้วยกลิ่นเหงื่อของคน โดย  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ    เฉพาะอย่างยิ่งรอบๆที่มียุงอยู่จำนวนมาก อย่ามานะเคลื่อนมากเกินความจำเป็น และก็มองหาจุดที่มีอากาศเย็น ไม่ทำให้เหงื่อไหลไคลย้อย

– เลือกเสื้อผ้าให้สมควร สีแก่ซับความร้อนนั้นมีผลซึ่งก็คือเป็นการทำให้ยุงซึ่งมีเซนเซอร์ความร้อนไว้กว่าคน ก็เลยค้นหาตัวคุณได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุดังกล่าวคุณจำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าสีอ่อนเพื่อสะท้อนความร้อนออกมาจากตัวคุณ เทคนิคอีกอย่างหนึ่งเป็นการใส่เสื้อผ้าหละหลวมๆเพื่อไม่ให้ยุงเข้าถึงผิวหนังของคุณได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกนั้นแม้เลือกเสื้อผ้าที่มีการทออย่างครึ้ม สิ่งของกลุ่มนี้จะมีผลให้ยุงเจาะเข้าถึงผิวหนังของคุณได้ยาก แม้กระนั้นถ้าหากอากาศร้อนเสื้อผ้าครึ้มๆบางทีอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีด้วยเหตุว่ายิ่งส่งผลให้เกิดเหงื่อ

– ลดการกินของกินเผ็ด เพราะว่ายุงชอบเข้าหาพวกคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะฉะนั้นหากหลบเลี่ยงสิ่งที่จะสร้างคาร์บอนไดออกไซด์คุณจะไม่สามารถที่จะขัดขวางยุงได้ และก็การรับประทานอาหารรสเผ็ดจะช่วยเพิ่มการเผาไหม้ซึ่งนำไปสู่คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

– หลบหลีกการใช้สินค้าความสวยสดงดงามที่มีกลิ่นหอมยวนใจ ยุงไม่เพียงแต่ถูกยั่วยวนใจด้วยกลิ่นกายของพวกเราเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นกลิ่นของสินค้าที่ให้ความหอมยังเย้ายวนใจยุงอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่มีกลิ่นหอมยวนใจของดอกไม้จะมีผลให้ยุงเข้ามาใกล้คุณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเหตุนี้ชี้แนะให้ใช้สบู่ไร้กลิ่น

แล้วพวกเราจะปกป้องไม่ให้ยุงเข้ามาใกล้พวกเราได้ยังไง 

– ใช้พัดลมเปิดเพื่ออากาศมีการหมุนวน ยังคงมีการแย้งกันว่าทำไมกระแสลมก็เลยช่วยไล่ยุงได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุว่ายุงบินเข้ามาได้ยาก หรือลมดึงกลิ่นที่เรียกยุงเข้ามาได้ แม้กระนั้นลมก็ช่วยคุ้มครองยุงไม่ให้เข้ามาใกล้พวกเราได้อยู่ดี

– กำจัดแหล่งน้ำขัง น้ำนิ่งบริเวณบ้าน แม้น้ำนิ่งเพียงแค่เล็กๆน้อยๆที่อยู่ในถัง ถ้วยน้ำก็สามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงได้ ด้วยเหตุว่ายุงใช้เวลาเพียงแค่ 24-72 ชั่วโมงแค่นั้นสำหรับในการฟัก

– เลี่ยงขณะที่ยุงมีเยอะๆ ยุงอุตสาหะหลบหลีกแสงตะวันให้สูงที่สุดเนื่องจากว่าการผึ่งแดดทำให้พวกมันขาดน้ำและก็ตายได้

– เพิ่มเติมกลิ่นบริเวณบ้านด้วยกลิ่นที่ยุงเกลียดชัง ยุงเกลียดกลิ่นของลาเวนเดอร์ ตะไคร้หอม ยูคาลิปตัส ขมิ้นชัน โดยเหตุนี้พวกเราสามารถใช้กลิ่นของสมุนไพรพวกไล่ยุงได้ จะเป็นในรูปใดก็ได้ว่าจะเป็นน้ำมันสเปรย์ฉีด เทียนหอมต่างๆก็ย่อมได้

bookmark_borderเคล็ดลับดูแลช่องคลอดอย่างไรให้สุขภาพดี

จุดซ้อนเร้น หรือช่องคลอด เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้หญิง ๆ หลายคนควรให้ความสำคัญในการดูแลรักษาเป็นอย่างดี เพราะเป็นหนึ่งในอวัยวะของร่างกายที่สาว ๆ ส่วนใหญ่ไม่ควรปล่อยละเลยการดูแลรักษา เนื่องจากอวัยวะส่วนนี้มีความอ่อนโยนเป็นอย่างมาก

หากเราปล่อยละเลยนอกจากจะทำให้จุดซ้อนเร้นเกิดการเสียสมดุลแล้ว ยังอาจทำให้มีกลิ่นเหม็น จนทำให้สาว ๆ เสียความมั่นใจได้นั่นเอง

ดังนั้น การดูแลรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นทั้ง การทำความสะอาดอย่างถูกวิธี การเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ส่งผลกระทบ หรือแม้แต่การใช้ชีวิตในประจำวันเองก็ตาม อย่างไรก็ตาม สำหรับสาว ๆ แล้ว

การให้ความสำคัญกับการดุแลสุขภาพร่างกายของตนเอง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะจุดซ้อนเร้น ฉะนั้น สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากมีสุขภาพช่องคลอดที่ดี หรือมีจุดซ้อนเร้นที่มีสุขภาพดี วันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ในการดูแลรักษาสุขภาพช่องคลอดให้สุขภาพดี จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย 

  • การทำความสะอาดอย่างถูกวิธี

แน่นอนว่าสิ่งสำคัญในการดูแลน้องสาว หรือจุดซ้อนเร้นให้สุขภาพดีนั้นคือ การที่เราทำความสะอาดอย่างถูกวิธีอยู่เสมอ และสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือไม่ควรที่จะสวนล้างช่องคลอด เพราะจะทำให้ค่า PH ในช่องคลอดนั้นเกิดการเสียสมดุล

อีกทั้งยังอาจส่งผลให้แบคทีเรียชนิดีในช่องคลอดของเราถูกรบกวน จนนำไปสู่ปัญหาเรื่องของกลิ่นน้องสาวได้ นอกจากนี้การดูแลน้องสาวไม่ควรที่จะใช้สบู่ที่มีฤทธิ์แรงจนเกินไป ทางที่ดีควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ้อนเร้น หรือสบู่ที่อ่อนโยนต่อจุดซ้อนเร้น 

  • การเลือกกินอย่างระมัดระวัง

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่มีกลิ่นรุนแรง น้ำตาลสูง หรืออาหารหมักดอง ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาจุดซ้อนเร้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราทานอาหารหมักดอง หรืออาหารที่เป็นตัวกระตุ้นการำลายจุดซ้อนเร้น

จะยิ่งส่งผลให้ช่องคลอดของเรานั้นมีกลิ่นเหม็น เสียสมดุล และอาจทำให้สารคัดหลั่งภายในช่องคลอดหลั่งออกมาในปริมารณที่มากจนเกินไป 

  • การร่วมรักอย่างปลอดภัย

รู้หรือไม่ว่าการสวมใส่ถุงยางอนามัยถือเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันไม่ให้จุดซ้อนเร้น หรือช่องคลอดของเรานั้นได้รับผลกระทบหรือความเสียหายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือการติดเชื้อภายในอวัยวะเพศ อีกทั้งควรทำความสะอาดเป็นอย่างดี เพราะไม่ให้สารล่อลื่น หรือน้ำอสุจิเกิดการตกค้าง หรือไปรบกวนแบคทีเรียชั้นดีในช่องคลอดของเรานั่นเอง 

 

ได้รับการสนับสนุนจาก  เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก

bookmark_borderแนะนำอาหารที่ช่วยทำให้เรานอนหลับได้ง่ายมากขึ้น

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับพักผ่อนกันอย่างแน่นอนเพราะการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่นั้นเต็มที่ไปกับการทำงานทำให้บางคนแทบจะไม่มีเวลานอนหรือแทบจะไม่มีเวลาดูแลตนเองซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองนั้นจะยิ่งทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอและเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่ายมากขึ้น

ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายไม่ว่าเราจะทำงานหนักมากขนาดไหนก็ตามควรที่จะหมั่นออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายเล็กน้อยเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ไม่เป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนน้อย หรือบางคนใช้เวลานานมากๆกว่าจะนอนหลับสนิท ซึ่งปัญหานี้ถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายๆคนมักที่จะมองหาวิธีในการแก้ไข แต่รู้หรือไม่ว่าในสมัยปัจจุบันนี้มีวิธีมากมายที่จะทำให้เรานั้นสามารถนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายมากยิ่งขึ้น

นอนหลับได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งนั่นก็คือการเลือกรับประทานอาหาร ฉะนั้น สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับไม่เพียงพอหรือหลับไม่สนิทวันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารที่มีส่วนช่วยในการนอนหลับทำให้เราสามารถนอนหลับได้สบายและสนิทตลอดทั้งคืน จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างไปดูกันเลย

1.ชาคาโมมาย

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยในการทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายแถมยังช่วยให้การนอนหลับพักผ่อนของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ   เพราะชาคาโมมายนั้นจะมีส่วนช่วยในการทำให้กล้ามเนื้อของเรารู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดอาการตึงเครียดและทำให้เรานั้นนอนหลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

2.น้ำผึ้ง

ถือเป็นหนึ่งในอาหารที่เราสามารถหาทานกันได้ง่ายๆหรือแทบจะมีขายทุกที่ซึ่งรู้หรือไม่ว่าน้ำผึ้งถือเป็นหนึ่งในอาหารที่สามารถช่วยกระตุ้นการนอนหลับของเราได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะน้ำผึ้งนั้นจะช่วยให้ระดับอินซูลินในร่างกายของเราเพิ่มสูงขึ้น จนส่งผลให้ระบบประสาทและสมองของเรารู้สึกผ่อนคลาย หากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับไม่สนิทขอบอกเลยว่าการที่เราดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำนั้นจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและทำให้การนอนหลับนั้นง่ายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

3.นม

เป็นอีกหนึ่งอาหารที่คนนอนไม่หลับควรที่จะเลือกทาน รู้หรือไม่ว่านมถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีส่วนช่วยในการนอนหลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนมอุ่นๆยิ่งถ้าเราดื่มก่อนเข้านอนจะยิ่งทำให้ร่างกายของเรารู้สึกผ่อนคลายแถมยังช่วยกระตุ้นการนอนหลับของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

bookmark_borderอาการสุดแปลกที่อาจเกิดขึ้นหลังการดื่มแอลกอฮอล์

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้เสพติดการดื่มแอลกอฮอล์กันเป็นอย่างมาก เพราะแน่นอนว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่อาจทำให้หลายคนรู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดได้เป็นอย่างดี

การดื่มแอลกอฮอล์ เพราะคนส่วนใหญ่เต็มที่ไปกับการทำงานจึงทำให้หลายๆคนนั้นมักจะมีความกดดันหรือความเครียดอยู่ตลอดเวลา

ยิ่งหากมีเวลาว่างก็มักที่จะชวนกันออกไปดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อทำให้ตนเองนั้นรู้สึกผ่อนคลาย แต่รู้หรือไม่ว่าการที่เราดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำหรือเยอะๆนั้น

ถึงแม้ว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความเครียดหรือทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีก็ตาม แต่หากเราดื่มเยอะๆหรือดื่มเป็นประจำจะยิ่งทำให้ร่างกายของเราได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็น โรคตับ หรือโรคอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้เช่นกัน

หรือบางครั้งอาจจะทำให้หลายๆคนนั้นเกิดอาการบางอย่างขึ้นหลังจากดื่มแอลกอฮอล์เพราะร่างกายของคนเรานั้นหากดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้วจะมีอาการเกิดขึ้นที่แตกต่างกันออกไป

ฉะนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าอาการสุดแปลกที่อาจเกิดขึ้นหลังการดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะมีอาการไหนกันบ้าง เผื่อว่าเราจะได้ระมัดระวังในการดื่มแอลกอฮอล์ ไปดูกันเลย

  • อาการท้องเสียหลังดื่มแอลกอฮอล์

ถือเป็นหนึ่งในอาการที่พบเจอได้บ่อยซึ่งอาการนี้เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นจากระบบย่อยอาหารของเราทำงานผิดปกติ  ถ่านเครื่องช่วยฟัง   ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่ระบบขับถ่ายของเราได้สัมผัสกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้ระบบขับถ่ายของเรานั้นเกิดการย่อยสารเคมีที่เข้าไปสู่ร่างกายจึงทำให้เหล่านั้น มักที่จะมีอาการท้องเสียอยู่บ่อยๆหลังจากริบแอลกอฮอล์นั่นเอง

  • อาการหน้าแดงหรือผื่นขึ้นตามตัว

เป็นอีกหนึ่งอาการที่พบเจอได้บ่อยหลังจากดื่มแอลกอฮอล์เพราะร่างกายของคนเรานั้นหากได้รับแอลกอฮอล์เข้าไปในปริมาณที่มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีสุขภาพร่างกายที่ไม่ดีหรือเรียกได้ว่าแพ้แอลกอฮอล์หากดื่มเข้าไปนั้นจะทำให้เรามีอาการหน้าแดงหรือ มีอาการผื่นขึ้นตามตัว

ซึ่งอาการนี้หลายคนอาจจะมองว่าไม่ได้มีอาการที่รุนแรง เมื่อเวลาผ่านไป ผื่นหรืออาการแดงนั้นจะค่อยๆหายไปแต่หากเราปล่อยไว้หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำนั้นอาการนี้อาจเกิดความรุนแรงขึ้นต่อร่างกายของเราได้

  • อาการปวดตัวหลังดื่มแอลกอฮอล์

เมื่อไรก็ตามที่ร่างกายของเรานั้นได้ต่อสู้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในปริมาณที่มากจะทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอและปวดเมื่อยได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าหากเราดื่มแอลกอฮอล์นอกจากจะช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายแต่ผลกระทบที่เราอาจได้รับหลังการดื่มแอลกอฮอล์นั้น ก็เยอะมากเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจทำให้เรามีอาการปวดตัว หรือปวดเมื่อยตามร่างกายได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

bookmark_borderเคล็ดลับการรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมให้หายขาด

อาการออฟฟิศซินโดรม ชีวิตมนุษย์วัยทำงาน ส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ แน่นอนว่านอกจากจะต้องทำงานอย่างเต็มที่แล้ว ยังทำให้ร่างกายของตนเองนั้นได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคออฟฟิศซินโดรม เพราะเป็นหนึ่งในโรคที่วัยทำงานส่วนใหญ่มักที่จะพบเจอกันอยู่บ่อย ๆ เนื่องจากอาการนี้เป็นหนึ่งในอาการที่เกิดขึ้นจากการที่เรานั่งทำงานนานเกินไป นั่งทำงานผิดท่า จนส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็ง เนื่องจากไม่ค่อยได้ผ่อนคลาย

จนทำให้เรานั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้กันได้ง่าย ดังนั้น ถึงแม้ว่าโรคนี้จะเป็นโรคที่พบเจอได้บ่อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถบรรเทาอาการหรือรักษาให้หายได้ เพราะไม่ได้มีความอันตรายต่อร่างกายขนาดนั้น หากเราดูสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ

ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม วันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ในการดูแลสุขภาพร่างกายไม่ให้ได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมได้ง่าย หรือวิธีการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมให้หายขาดได้ ไปดูกันเลย 

1.การนั่งทำงานให้ถูกท่า

เนื่องจากโรคออฟฟิศซินโดรมนั้น เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการนั่งทำงานนานเกินไป จนทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งตัวขึ้น ซึ่งวิธีบรรเทาอาการ หรือป้องกันการเกิดโรคนี้คือ เราจะต้องเลือกนั่งทำงานในท่าที่ถูกต้อง ไม่ควรนั่งหลังค่อม หรือนั่งหลังเอนมากเกินไป เพื่อช่วยลดอาการปวดเมื่อย หรือช่วยลดอาการล้าของกล้ามเนื้อ รับรองได้เลยว่าหาเราเลือกนั่งทำงานในท่าที่เหมาะสมอยู่บ่อย ๆ จะช่วยป้องกันการเกิดโรคออฟฟิศซินโดรมได้เป็นอย่างดี 

2.การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม

สิ่งสำคัญที่เราจะมีสุขภาพร่างกายที่ดี และไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายนั้นคือ การเลือกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี โดย  เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล  เฉพาะอย่างยิ่งในที่ทำงานของเรา ซึ่งควรที่จะมีอากาศถ่ายเท ไม่แออัดเกินไป มีอากาศที่ดีในห้องทำงาน รวมไปถึงการมีแสงไฟที่เหมาะสมอีกด้วย เพื่อให้เหมาะสมสำหรับสายตาของเราด้วย ยิ่งถ้าเราปรับเปลี่ยนเป็นประจำนั้นจะยิ่งทำให้เราไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมได้ง่ายนั่นเอง 

3.หลีกเลี่ยงการนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน

แน่นอนว่าการที่เราไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย หรือนั่งท่าเดิมเป็นเวลานานเกินไป จะยิ่งทำให้เรานั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมได้ง่าย ทางที่ดีเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายชนิดนี้ เราควรที่เราปรับเปลี่ยนท่านั่งอยู่บ่อย ๆ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อของเรานั้นเกิดการเกร็ง แถมยังช่วยให้ระบบประสาท และสมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อีกด้วย 

bookmark_border3 ประโยชน์ที่เราควรรู้สำหรับการตรวจสุขภาพ

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าในสมัยปัจจุบันนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี เพราะรู้หรือไม่ว่าการที่เราเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีนั้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้เรารู้ทราบถึงสถานะภายในร่างกายของตนเอง

สำหรับการตรวจสุขภาพ ว่ามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงหรือไม่ เนื่องจากส่วนใหญ่ ในปัจจุบันนี้ร่างกายของคนเหล่านั้นมักที่จะอ่อนแอได้ง่าย

เพราะคนส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการทำลายสุขภาพร่างกายของตนเองโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์อยู่เป็นประจำ ร่างกายไม่ได้รับการออกกำลังกายหรือแม้แต่การใช้ชีวิตในประจำวันเองก็ตามก็เป็นหนึ่งในผลกระทบ ที่อาจส่งผลให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงได้

แถมโรคภัยไข้เจ็บในสมัยปัจจุบันนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาอีกด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่มองว่าการเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีนั้นไม่มีได้มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิต วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าประโยชน์ที่เราควรจะรู้สำหรับกันตรวจสุขภาพประจำปีนั้นมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้าย

แน่นอนว่าการที่เราเข้ารับการตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำนั้น จะทำให้เรารู้ทราบถึงสถานะร่างกายของตนเอง  เครื่องช่วยฟัง     เพื่อที่จะรู้ว่าร่างกายของเรานั้นมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายได้หรือไม่ แถมยังเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้ร่างกายของเรานั้นลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายได้อีกด้วย ดังนั้น การเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามหากเราอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง

  • ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพ

หากเรารู้ว่าร่างกายของเรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ไม่ดีและแข็งแรง ค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการรักษาพยาบาลนั้นอาจเป็นหนึ่งในปัญหาที่คนส่วนใหญ่มักที่จะมีปัญหากันอยู่บ่อยๆ ดังนั้น การตรวจสุขภาพประจำปีถือเป็นหนึ่งในการตรวจสุขภาพร่างกายเบื้องต้น เพื่อที่จะได้เตรียมความพร้อมสำหรับการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ

  • ลดอาการรุนแรงจากโรคร้าย

เมื่อไหร่ก็ตามที่รอเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีจะทำให้ร่างกายของเรานั้นรู้ทราบในระยะแรกของอาการต่างๆหรือโรคร้ายต่างๆที่อาจเกิดขึ้นซึ่งถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้เรานั้นรับมือและแก้ไขปัญหานี้ได้ทันเพื่อไม่ให้โรคร้ายหรือ ปราการที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเรานั้นรุนแรงมากยิ่งขึ้น

bookmark_border3 ท่าออกกำลังกายที่ช่วยลดขาใหญ่ได้

สมัยปัจจุบันนี้การมีรูปร่างที่ดีหรือมีสัดส่วนที่เป๊ะนั้นถือเป็นหนึ่งในสิ่ง สำคัญที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะหากเรามีรูปร่างที่ดีมีหุ่นที่สวยนั้นจะสามารถเพิ่มความมั่นใจและเพิ่มบุคลิกภาพในการใช้ชีวิตได้แถมยังทำให้สาวๆส่วนใหญ่สามารถสวมใส่เสื้อผ้าที่สวยๆได้อย่างเหมาะสมและสวยงามอีกด้วย

ดังนั้น เราจึงจะเห็นได้ว่า หลายหลายคนเริ่มที่จะหันมาให้ความสนใจกับการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬากันมากขึ้นเรื่อยๆ

เนื่องจากเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สามารถเสริมสร้าง ความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้แถมยังช่วยปรับสัดส่วนทำให้ เรามีรูปร่างที่ดีขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราจะมีรูปร่างที่ดีได้นั้น เราก็ควรที่จะออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายของเราและให้ผลลัพธ์แก่เราได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าสาวๆส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมองหาวิธีในการลดไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขากันอย่างแน่นอน เพราะการที่สาวๆมีต้นขาที่ใหญ่ อาจจะทำให้หลายคนเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตหรือสวมใส่เสื้อผ้าได้ ซึ่งก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป

เพราะวันนี้เราจะมาแนะนำท่าออกกำลังกาย ที่มีส่วนช่วยในการลดไขมันบริเวณต้นขาได้เป็นอย่างดี รับรองได้  เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน    เลยว่าหากเล่นเป็นประจำนั้น จะทำให้สาวๆมีขาที่เรียวและมีรูปร่างที่สวยได้อย่างแน่นอน จะมีท่าออกกำลังกายไหนกันบ้างไปดูกันเลย

1.ท่าปั่นจักรยานกลางอากาศ

ถือเป็นหนึ่งในท่าออกกำลังกายที่ทำได้ง่ายมากๆ แม้ว่าเราจะนอนเล่นเราก็สามารถออกกำลังกายด้วยท่านี้ได้ซึ่งขอบอกเลยว่าการที่เราเล่นหรือออกกำลังกายท่านี้เป็นประจำนั้นจะสามารถช่วยเผาผลาญไขมันบริเวณต้นขาได้เป็นอย่างดีซึ่งสาวๆคนไหนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการมีไขมันบริเวณต้นขาเยอะ การออกกำลังกายท่าปั่นจักรยานกลางอากาศเป็นประจำนั่นจะทำให้ ต้นขาของเราดูกระชับและเล็กลงได้อย่างแน่นอน

2.ท่าออกกำลังกายกางขา หุบขา

เป็นอีกหนึ่งท่าที่ทำง่ายมากๆแถมยังได้ประโยชน์ดีๆต่อร่างกายของเราเยอะอีกด้วยซึ่งเป็นท่าที่เราจะต้องนอนราบกับพื้นยกขาทั้งสองข้างขึ้นแล้วกางขาหกเข้าออก เพื่อเป็นการบริหารต้นขา ซึ่งขอบอกเลยว่าหากสาวๆทำท่านี้เป็นประจำจะไม่เพียงแต่มีต้นขาที่ดูกระชับแต่ยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้าง มวลกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

3.ท่ายืดขางอเข่า

ท่านี้เป็นท่าที่เราจะต้องนอนราบลงไปกับพื้นยกขาทั้งสองข้างขึ้น หลังจากนั้นให้งอเข่าลงทีละข้างซ้ายขวาสลับกันไปมา ซึ่งหากเราทำท่านี้เป็นประจำนอกจากจะช่วยลดไขมันบริเวณต้นขาได้เป็นอย่างดีแล้วยังสามารถช่วยทำให้น้องบริเวณขาของเราดวลกระชับและทำให้เรานั้นสามารถมีสัดส่วนที่ดีได้

bookmark_borderความสำคัญของการควบคุมอาหารหากเกิดการไหลย้อน

การควบคุมอาหาร คุณวิ่งตอนเช้าเสร็จและรู้สึกว่าสามารถผลักดันตัวเองได้อีก 1 ไมล์ หรือบางทีคุณออกกำลังกายเสร็จและต้องการเพิ่มจำนวนครั้งเพิ่มเติมเพื่อจบการวิ่ง สิ่งล่อใจที่จะผลักดันตัวเองให้มากขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อเอ็นโดรฟินจากการออกกำลังกายหลั่งออกมาอย่างดีและแท้จริงเป็นสิ่งที่เราทุกคนรู้สึกผิดเป็นครั้งคราว ถึงกระนั้น

สิ่งสำคัญพอๆ กับการเคลื่อนไหวร่างกายของเรา การพักผ่อนและหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายมากเกินไปก็สำคัญพอๆ กัน

หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโอเวอร์เทรนนิ่ง คุณสามารถทำตามขั้นตอนเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นได้โดยการฟังร่างกายของคุณและตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เติมสารอาหารที่จำเป็นก่อนและหลังการฝึก

โอเวอร์เทรนนิ่งซินโดรมคืออะไร มักจะมีคำพูดโบราณที่ว่า “มีสิ่งที่ดีมากเกินไป” ใช้ได้กับปัจจัยหลายอย่างในชีวิตของเรา และการออกกำลังกายก็ไม่มีข้อยกเว้น บางครั้งเรียกว่าความเหนื่อยหน่าย การโอเวอร์เทรนจะเกิดขึ้นเมื่อคุณรู้สึกเหนื่อยล้าหรือประสิทธิภาพลดลงอันเป็นผลมาจากการฝึกที่เพิ่มขึ้น สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับนักกีฬาประเภท endurance หลายคน โดย Simone Manuel นักว่ายน้ำโอลิมปิกและผู้ชนะเหรียญทองแดงของสหรัฐฯ เพิ่งออกมาพูดถึงผลกระทบของการโอเวอร์เทรนนิ่งซินโดรมที่ส่งผลต่อการฝึกซ้อมของเธอ

ปัจจัยเสี่ยงสำหรับการโอเวอร์เทรนจะสูงขึ้นหากคุณเชี่ยวชาญในกีฬาประเภทใดประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุว่าทำไมจึงส่งผลต่อนักกีฬาที่มีความอดทนมากที่สุด อย่างไรก็ตาม มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่เพิ่มการฝึกอย่างกระทันหันและไม่ให้เวลากับร่างกายในการฟื้นฟู

อาการและอาการแสดงของโอเวอร์เทรนนิ่งซินโดรมคืออะไรและมีความเสี่ยงต่อสิ่งต่างๆอย่างไรบ้างรวมทั้งสิ่งที่อาจจะเกิดผลกระทบกับร่างกายด้วย

อาการที่เกี่ยวข้องกับการโอเวอร์เทรนเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และความเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ สัญญาณและอาการทั่วไปของการโอเวอร์เทรนรวมถึง ไม่ว่าจะเป็นการปวดกล้ามเนื้อหรือกล้ามเนื้อแข็ง ซึ่งอาจจะเกิจากการเกร็งของกล้ามเนื้อนั่นเอง น้ำหนักอาจจะลดลงได้ ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง

นอนไม่หลับหรือรบกวนการนอนหลับ สูญเสียแรงจูงใจ ประสิทธิภาพในการทำสิ่งต่างนั้นลดลงไปด้วยนั่นเอง หากอาการข้างต้นฟังดูคุ้นเคย

สิ่งสำคัญคือต้องพักจากการออกกำลังกายและพูดคุยกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณอยู่อย่างสม่ำเสมอว่าการกระทำสิ่งใดๆได้รือไม่ได้และจะเกิดผลอย่างไรเมื่อหากทำสิ่งเหล่านั้นเพื่อลดความอันตรายในการที่เกิดผลกระทบต่อร่างกายได้นั่นเอง ทั้งนี้อาจจะสามารถสร้างเพื่อให้แน่ใจว่าสัญญาณเหล่านี้ไม่ได้เป็นผลมาจากอาการอื่นๆ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ตรวจการได้ยินออนไลน์

bookmark_borderดิมเบิลบีลาออกและมุ่งเป้าไปที่นโยบายด้านอาหารของรัฐบาล

อดีตที่ปรึกษารัฐบาลอังกฤษ เฮนรี ดิมเบิลบี ลาออกจากตำแหน่งและมุ่งเป้าไปที่การเพิกเฉยของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาโรคอ้วน รัฐบาลสหราชอาณาจักรถูกทำลายเพราะรายงาน “เฉย” เกี่ยวกับวิกฤตโรคอ้วน

โดยไม่มีใครอื่นนอกจากอดีตที่ปรึกษา เฮนรี ดิมเบิลบี ชายผู้อยู่เบื้องหลังยุทธศาสตร์ด้านอาหารแห่งชาติ (หรือรายงาน Dimbleby)

ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ไว้มากประกาศลาออกจากบทบาทที่บางคนเรียกว่า “ซาร์อาหาร” ใน The Sunday Times ด้วยความรู้สึกอิสระที่เพิ่งค้นพบ Dimbleby ได้นำเสนอบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับนโยบายปัจจุบันของรัฐบาลสหราชอาณาจักรในการดำเนินการ (หรือไม่ดำเนินการจริง ๆ) เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคอ้วน

เขาเตือน The Sunday Times ถึงคำพูดของอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง “วินสตัน เชอร์ชิลล์พูดถึงทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ประเทศจะมีได้คือสุขภาพของประชาชน เขาเข้าใจอย่างนั้น Andy Haldane อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Bank of England

กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าปัญหาใหญ่ที่สุดที่เรามีในแง่ของผลผลิตในประเทศนี้คือความเจ็บป่วย และพนักงานของเราไม่เหมาะสม” Dimbleby กล่าวกับหนังสือพิมพ์แห่งชาติ

ดิมเบิลบีลาออกและมุ่งเป้า ถึงกระนั้นก็ตาม พรรค Tory เวอร์ชันใหม่นี้คิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรมีส่วนร่วม และมันก็บ้าไปแล้ว มันไม่สมเหตุสมผลเลย”

คำวิจารณ์ไม่ได้อยู่ในสื่อสิ่งพิมพ์เช่นกัน เนื่องจาก Dimbleby นำไปออกอากาศทางคลื่นวิทยุในรายการ Today ของ Radio 4 “ผมคิดว่าอุดมการณ์ของพรรคอนุรักษนิยมและวิธีที่พวกเขาจัดการกับปัญหาโรคที่เกี่ยวข้องกับอาหารนั้นไม่สมเหตุสมผลเลย” เขากล่าว “ในเวลา 10 ปี ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ตามที่มีอำนาจ พวกเขาจะต้องจัดการกับปัญหาใหญ่ของ NHS

ซึ่งจะดูดเงินจากการใช้จ่ายของรัฐบาลที่เหลือ และทำให้เกิดความทุกข์ยากจากโรคที่  เครื่องช่วยฟังฟรี    เกี่ยวข้องกับอาหาร” เห็นได้ชัดว่า Dimbleby ผิดหวังที่นโยบายหลักหลายข้อของเขาในรายงานนั้นถูกยกเลิกหรือถูกผลักดันกลับ เช่น การห้ามโฆษณาอาหารขยะก่อน 21.00 น. และการจำกัดข้อเสนอการซื้อหลายรายการสำหรับอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ศาสตราจารย์ Chris Elliott บอกกับ New Food

ในการประชุมด้านความปลอดภัยด้านอาหารว่าเขารู้สึกว่ารายงานของ Dimbleby ถูก “ฝัง” และจากน้ำเสียงและเนื้อหาของการเปิดเผยของ Dimbleby เขาก็รู้สึกว่าเขาถูกผูกมัดด้วยนโยบายของรัฐบาลเช่นกัน Defra (กรมสิ่งแวดล้อม อาหาร และกิจการชนบท)

จะพูดว่า ‘โอ้ เราไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ เพราะมันจะส่งผลเสียต่อธุรกิจอาหาร’ ในขณะเดียวกัน กรมอนามัยและการดูแลสังคมจะถูกทิ้งไว้เพื่อจัดการกับความยุ่งเหยิงที่เกิดจากสิ่งนี้

“ในขณะนี้มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2578 การรักษาเบาหวานชนิดที่ 2 เพียงอย่างเดียวจะมีค่าใช้จ่ายมากเท่ากับการรักษาโรคมะเร็งทั้งหมด “ไม่ว่ารัฐบาลใดจะอยู่ในอำนาจ สีใดก็ตาม ความพยายามส่วนใหญ่ของพวกเขาจะพยายามสนับสนุน NHS จากผลกระทบของการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับอาหาร” Dimbleby กล่าวกับ The Sunday Times โฆษกของ Department of Health and Social Care

กล่าวกับ BBC ว่า “เราจัดการกับโรคอ้วนอย่างจริงจัง และเราจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคอุตสาหกรรมต่อไป เพื่อให้ผู้คนตัดสินใจเลือกสุขภาพที่ดีขึ้นได้ง่ายขึ้น “เราเพิ่งประกาศ 20 ล้านปอนด์เพื่อทดลองการรักษาโรคอ้วนและเทคโนโลยีใหม่เพื่อช่วยรักษา NHS หลายพันล้าน และยังคงมุ่งมั่นที่จะแนะนำข้อจำกัดที่ห้ามโฆษณาทางทีวีสำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่มีไขมัน เกลือ หรือน้ำตาลสูง (HFSS) ก่อน 21.00 น. เช่นกัน เป็นโฆษณาแบบชำระเงินออนไลน์”

bookmark_borderเราเข้าใจได้ดีขึ้นว่าไม่มีสิ่งเดียวที่ทำให้คนเราสวยได้

สิ่งเดียวที่ทำให้คนเราสวยได้ งานจมูกลาดสกีทั้งหมดเริ่มต้นด้วยการฝึกอบรมศัลยแพทย์ตกแต่ง “คำสอนสอดคล้องกันอย่างมากว่าจมูก ‘ในอุดมคติ’ ควรมีลักษณะอย่างไร” ดร. วิลเลียมส์

ผู้ซึ่งสำเร็จการศึกษาด้านศัลยกรรมพลาสติกที่มหาวิทยาลัยเยลในปี 2548 กล่าว เมื่อเขาเป็นคนแรกและคนเดียวที่อาศัยอยู่ในคลินิกศัลยกรรมตกแต่งสีดำของเขา โปรแกรม. มาตรฐานของรูปทรงจมูกนี้ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งในวรรณกรรมที่ศัลยแพทย์ตกแต่งอ่าน จากนั้นจึงค่อยๆ ลดลงไปยังคนไข้ในขั้นตอนที่พวกเขาได้รับ

ในยุคนั้น ดร.วิลเลียมส์กล่าวต่อว่า “เป็นตัวอย่างของมุมมองของการทำศัลยกรรมพลาสติกและศัลยแพทย์พลาสติก และสิ่งที่เรากำลังบอกคนไข้ว่าพวกเขาควรคาดหวังและสิ่งที่พวกเขาคิดว่าสวยงาม” ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วิวัฒนาการของการทำศัลยกรรมเสริมความงามได้รวมเอาการเปลี่ยนแปลงมุมมอง

ซึ่งความคิดเห็นของผู้ป่วยเริ่มแพร่หลายมากขึ้น นั่นคือการอภิปรายเกี่ยวกับจมูกหรือหน้าอกที่พวกเขาต้องการจริงๆ แทนที่จะเป็นตัวเลือกที่พวกเขาควรจะต้องการ ดร. วิลเลียมส์ตั้งข้อสังเกตว่า “เราเข้าใจได้ดีขึ้นว่าไม่มีสิ่งเดียวที่ทำให้คนเราสวยได้”

ในอดีต ศัลยแพทย์ให้ความสำคัญกับการทำหัตถการอย่างประสบความสำเร็จและปลอดภัยเป็นอันดับแรก ดร. วิลเลียมส์กล่าว

เนื่องจากภาคสนามและการทดลองประเภทนี้ถูกครอบงำโดยศัลยแพทย์ผิวขาวเป็นหลัก และการศึกษาได้ดำเนินการกับผู้เข้าร่วมที่เป็นคนผิวขาวเป็นหลัก “การศึกษาทั้งหมดจึงเบ้ไปทางมาตรฐานความงามเดียว” ดร. บอยด์ ผู้เขียนร่วมการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Drugs in Dermatology

ศึกษาว่า “การรักษารูปแบบริ้วรอยบนใบหน้าของผู้หญิงผิวขาวนั้นมีการจัดทำเป็นเอกสารไว้อย่างดี [แต่] มีข้อมูลน้อยกว่ามากที่อธิบายถึงความต้องการด้านความงามของผู้ป่วยชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน”

ปัจจุบัน คนไข้เริ่มมองหาความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับความงามมากขึ้น ดร. วิลเลียมส์กล่าว และศัลยแพทย์สามารถเลือกทำหัตถการต่างๆ เช่น การผ่าตัดเสริมจมูกตามชาติพันธุ์และการผ่าตัดเสริมจมูกเพื่อรักษาคุณสมบัติเฉพาะของจมูกของผู้ป่วย “แต่เดิม การทำศัลยกรรมเสริมจมูกตามเชื้อชาติ

หลายครั้งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงหรือลดทอนคุณลักษณะบางอย่างที่อาจเป็นลักษณะเฉพาะของจมูก ชาติพันธุ์‘” เขาอธิบาย “ทั้งสองคำนี้สะท้อนถึงการให้เกียรติคุณลักษณะเฉพาะบางอย่าง เราจะไม่ลบล้างลักษณะทั้งหมดที่อาจเกี่ยวข้องกับจมูกของคุณ

แต่ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ดีจะจัดการกับข้อกังวลเฉพาะเพื่อให้บรรลุ ความสวยงามให้กับคนไข้รายนั้นๆ โดยไม่เพียงแค่พูดว่า เรารู้ว่าจมูกที่ดีเป็นอย่างไร และเราจะมอบให้คุณ‘”

ไม่ว่าคนไข้จะเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดริ้วรอยหรือยกกระชับใบหน้า เป้าหมายไม่ควรกลายเป็นคนอื่น ดร. บอยด์กล่าว งานยังคงต้องทำเพื่อให้แน่ใจว่าศัลยแพทย์ตกแต่งได้รับการศึกษาเกี่ยวกับมาตรฐานความงามที่หลากหลาย นี่คือสิ่งที่ Dr. Williams ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก เมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งประธาน ASPS ในเดือนตุลาคม

และพยายามที่จะต่อสู้กับสิ่งที่เป็นอุปสรรคเชิงโครงสร้างในการดูแลสุขภาพให้ประสบความสำเร็จ “เรากำลังทำงานในหลายๆ สิ่ง” เขากล่าว “เช่น การริเริ่มการเรียนรู้ดิจิทัลที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งจะช่วยให้การดูแลผู้ป่วยปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนมีวิทยากรและการสนทนาเชิงนวัตกรรมเกี่ยวกับความเท่าเทียมกันและความหลากหลายในด้านการทำศัลยกรรมพลาสติก”

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟัง