bookmark_borderกระท่อมปลายนา

จากสถานการณ์โรคโคโรน่า  หรือโรคโควิด 19  ทำให้การใช้ชีวิตของคนหลายคนเปลี่ยนแปลงไป  แต่ก็เป็นการป้องกันไม่ให้โรคระบาดไปมากกว่านี้ จากเรื่องราวที่ได้ฟังข่าว  ดูข่าวทางทีวีที่ออกทุกวัน        ว่ามีคนติดเชื้อขึ้นจำนวนมากในประเทศไทยเรา  เป็นการติดแบบก้าวกระโดดมาก  เพราะไม่ได้ติดแค่ทีละ 2-3 คน  แต่เป็นการติดครั้งหนึ่งเป็นทีละ  100  คน  เป็นข่าวที่สร้างให้เราหวาดกลัวเกิดความเครียดกันขึ้นโดยไม่รู้ตัว

แต่ก็ขอชื่นชมน้องคนหนึ่ง  เธอได้ไปเที่ยวในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง  พออีกสองวันผ่านไป  เธอได้ข่าวว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้ไปเที่ยวในสถานบันเทิงในวันเวลาเดียวกันกับเธอ  เธอรีบแจ้งหน่วยงานและคนใกล้ชิดเธออย่างรวดเร็ว  เธอได้กักตัวเองด้วยการไปอยู่คนเดียวที่กระท่อมปลายนา ห่างไกลจากหมู่บ้าน  เธอได้ให้ญาติพี่น้องนำสิ่งของ  ที่อำนวยความสะดวกมาให้เธอ  รวมทั้งข้าวสารอาหารแห้ง  เธอจะประกอบอาหารกินเอง  และญาติที่เดินทางนำสิ่งของต่างๆมาให้เธอ  เธอให้ญาติวางสิ่งของไว้ในบริเวณที่เธอกั้นไว้  ด้วยพลาสติกใสเป็นทางเดินเข้า  ไม่ให้เข้าใกล้ตัวเธอ 

เธอแจ้งให้ทุกคนติดต่อเธอด้วยการโทรศัพท์  หรือวีดีโอคอกันเท่านั้น  เธอเขียนไว้ที่ทางเข้าว่า  “รักเธอคิดถึงเธอ  ไม่ต้องมาหา  อีก 14 วัน  เจอกัน” ฉันได้โทรศัพท์สอบถามอาการเธอ เธอบอกว่ายังปกติยังไม่มีอาการใดๆ  ไม่ไอ ไม่ตัวร้อน  ไม่มีน้ำมูล  ไม่เหนื่อย  เธอยังปกติทุกอย่าง เธอบอกว่าเธอยังมีความสุขดีถึงแม้นจะอยู่คนเดียว  ไม่ได้เจอพ่อแม่พี่น้อง เพื่อน 

แต่เธอก็อยู่ได้เธอจะอดทนจนครบ  14  วัน  ตามข่าวที่แจ้งว่าหากมาจากสถานที่กลุ่มเสี่ยงต้องกักตัวเอง  14  วัน  เพื่อสังเกตอาการว่าได้รับเชื้อหรือเปล่า  หากได้รับก็จะเป็นการลดไม่ให้คนใกล้ชิด  คนในครบครัวได้รับเชื้อด้วย  หากไม่ได้รับเชื้อก็ถือว่าเป็นการดีต่อตัวเอง  เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม  เธอใช้ชีวิตช่วงกักตัวอยู่คนเดียว  ด้วยการปลูกผัก  ปลูกดอกไม้  ฝึกการเย็บหน้ากากอนามัยแบบผ้า  ถ้าเธอไม่ติดเธอจะได้นำมาแจกให้กับคนในชุมชนของเธอ  เธอบอกหากเธอเบื่อเธอก็จะดูหนังฟังเพลง  ทำอาหารแปลกๆกินเอง  หลังกระท่อมของเธอเป็นต้นมะม่วง  หลายต้น  เธอได้ไปหาไข่มดแดงตามต้นไม้มาทำเป็นอาหารกินเอง  เธอบอกว่าถ้าเธอกักตัวครบ  14  วันแล้วเธอไม่เป็นอะไร  เธอจะมาทำเมนูไข่มดแดงให้ฉันกินด้วย

ก็ขอชื่นชมกับความรับผิดชอบต่อสังคมของเธอ  ได้แต่ขอให้เธอกักตัวครบ 14 วันแล้วไม่เป็นอะไรให้กลับมาอยู่กับพ่อแม่  พี่น้องเหมือนเดิม

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  สมัครเว็บหวยฮานอย

bookmark_borderเสริมสร้างแคลเซียมให้กับร่างกาย

ร่างกายของคนเรานั้นสามารถเคลื่อนไหวได้ส่วนหนึ่งก็มาจากกล้ามที่การยืดหยุ่น  แต่นอกเนื้อจากกล้ามเนื้อแล้วนั้นสิ่งที่เป็นโครงสร้างที่ทำให้ทำให้ยืนและเดินได้นั้นคือ กระดูก ลองคิดเล่นๆว่าคุณไม่มีกระดูกจะเป็นอย่างไร คงไม่สามารถลุกขึ้นที่นอนได้ ตัวนิ่มๆไปหมด เมื่อกระดูกเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญต่อร่างกาย แต่ก็ใช้ว่ามันจะมีสภาพที่สมบูรณ์ตลอดการ เพราะยิ่งเราอายุเพิ่มขึ้นเราอาจจะต้องใช้ร่างกายในการทำงานทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรง เพราะกระดูกถือว่าที่ยึดเหนี่ยวสำหรับอวัยวะต่างๆภายในร่างกาย ยิ่งร่างกายทำถูกใช้งานมาขึ้นมากเท่าไหร่กระดูกก็จะมีการศึกล่อมากขึ้น

แล้วยิ่งเราอายุมากขึ้นกระดูกก็จะมีสภาพเสื่อมลง เพราะฉะนั้นแล้วเราควรดูแลกระดูกด้วยการเสริมแคลเซียมเข้าไปร่างกาย เพราะแคลเซียมถือเป็นแหล่งสารอาหารชั้นดีสำหรับกระดูทุกๆส่วนในร่างกาย แต่จะมีวิธีอะไรเพิ่มเติมบ้างในเสริมกระดูกให้แข็งแรงนั้น  วันนี้ทางเว็บ  ชุดตรวจ hiv  ของเรามีมาแนะนำให้ดูดังนี้

  • การดื่มนมและการทานอาหารที่มีแคลเซียม การเพิ่มแคลเซียมให้กับร่างกาย สามารถเริ่มได้จากวิธีการง่ายๆอย่าการดื่มนม หรืออาหารที่มีแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกาย เพราะแคลเซียมที่อยู่ในนมหลายๆชนิดนั้นร่างกายจะทำการดูดซึมไปใช้งานได้ง่ายที่สุด และในอาหารที่มีแคลเซียมอย่างเช่น ผักใบเขียวเข้ม ถั่ว งา เต้าหู้ก้อน ปลาเล็กปลาน้อย โยเกิร์ต นมเปรี้ยว ชีส เป็นต้น
  • รับวิตามินDและแมกนีเซียม ไม่ใช่แค่การทานนมและหารที่มีแคลเซียมเท่านั้นที่จะเสริมสร้างให้กระดูกแข็งแรงได้ แต่การทานอาหารที่มีวิตามินดีจะช่วยทำให้การดูดซึมแคลเซียมทำงานได้อย่างดีขึ้น อาหารที่มีวิตามินดีอย่างเช่น นม ปลาแซลมอน ไข่แดง เห็ด น้ำมันพื้นและแสงแดด ซึ่งการได้รับวิตามินดีจากแสดงแดดนั้น ทำได้โดยการออกไปรับแสงแดดอ่อนๆในช่วงเช้าและช่วงเย็นวันละ 10-15 นาทีก็เพียงต่อร่างกาย และแมกนีเซียมซึ่งเป็นสารอาหารที่บทบาทต่อกระบวนการการสังเคราะห์และยังช่วยควบคุมในเรื่องของการขนส่งแคลเชียมไปเสริมสร้างร่างกาย
  • ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่จะไปยับยั้งการดูดซึมของแคลเซียม ถึงแม้เราจะทานอาหารที่เข้าไปช่วยเสริมสร้างแคลเซียมให้กับร่างกายมากแค่ไหน ก็จะมีอาหารบางประเภทที่มีส่วนในการยับยั้งการดูดซึมของแคลเซียมได้เหมือนกันอย่างเช่น รำข้าวสาลี มันเทศ ผักโขม พืชมีเมล็ดและโปรตีน สารสกัดจากถั่วเหลือง แนะนำว่าให้ทานผักที่มีแคลเซียมสูงและมีออซาเลตต่ำอย่างเช่น ผักคะน้า กวางตุ้ง ตำลึง ใบบัวบก ถั่วพู ขี้เหล็ก เป็นต้น
  • ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มบางประเภท แน่นอนว่าเครื่องดื่มที่เป็นผลเสียต่อร่างกายคงหนีไม่พ้นแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำการขีดขวางการทำงานการดูดซึมแคลเซียมจากระบบของทางเดินอาหาร และน้ำอัดลมก็เช่นเดียวกันที่จะมีไปทำให้กระดูกพรุนได้ง่าย
  • ไปออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่จะเสริมสร้างทำให้กระดูกนั้นแข็งแรง คือการออกกำลังที่จะต้องใช้การแบกรับน้ำหนักตัว เพราะจะเสริมสร้างทำให้กระดูกแข็ง และชะลอการเกิดภาวะกระดูกพรุน ซึ่งการออกกำลังกายประเภทนี้อย่างเช่น เดิน ตีกอล์ฟ ไทชิ รำไท่เก็ก โยคะ บอดี้เวท เป็นต้น

bookmark_borderโรคหนองใน

โรคหนองในแท้ เป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นได้จากการมีเพศสัมพันธ์ และสามารถเป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง และส่วนมากจะเป็นตรงบริเวณทวารหนัก อวัยวะเพศ ลำคอ และจะติดต่อได้เมื่อไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อหนองในอยู่แล้ว และไม่ได้มีการป้องกันที่เหมาะสม

อาการของโรคหนองใน

อาการของโรคหนองในนี้ในบางคนอาจไม่แสดงอาการออกมาโดยเฉพาะในผู้หญิงที่สามารถเป็นโรคนี้เพียง 1ใน10ของผู้ชายเท่านั้น และในผู้หญิงจะไม่ค่อยแสดงอาการออกมามากเท่าผู้ชาย การเกิดอาการนั้นอาจจะทำให้มีอาการหลังจากการได้รับเชื้อมาถึง 2เดือนบางรายอาการก็จะออกมา และอาการของโรคหนองที่เกิดจากการติดเชื้อที่อวัยวะเพศนั้น ใน ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงมีความแตกต่างกันไป

อาการของโรคหนองในของผู้ชาย อาการติดเชื้อที่อวัยวะเพศของผู้ชาย จะเกิดอาการอักเสบตรงปลายหุ้มอวัยวะ และจะมีลักษณะบวมและเจ็บบริเวณลูกอัณฑะ และมีอาการเจ็บหรือแสบเวลาปัสสาวะ และจะมีหนองสีเหลืองหรือเขียวไหลออกมาตรงส่วนปลายของอวัยวะเพศ โดยที่อาจะเกิดขึ้นหลังจากการมีเพศสัมพันธ์แล้ว

อาการโรคหนองในของผู้หญิง อาการในผู้หญิงจะมีอาการเจ็บแสบเวลาปัสสาวะ มีตกขาวมามากผิดปกติและจะมีกลิ่นแรง ลักษณะของตกขาวจะออกมาเป็นเส้นจะมีสีเหลืองเขียวหรือบางที่ออกมาเป็นน้ำ และอาจจะมีอาการเจ็บหรือฟกช้ำบริเวณใต้ท้องน้อย และอาจจะมีเลือดออกมาหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือมีอาการประเดือนมาผิดปกติแต่อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นน้อยมาก

สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหนองใน

สาเหตุหลักคือการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย และบางคนยังมีอายุที่น้อยจึงไม่รู้จักการป้องกันตัวเอง และไม่ใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันตัวเอง และยังใช้คู่นอนรวมกับผู้อื่นและการใช้สารเสพติด และยังเจอคู่นอนที่อาจมีประวัติในการเป็นโรคติดต่อโรคอื่นมาก่อนอย่างโรคซิฟิลิส หรืออาจเป็นโรคหนองในอยู่ก็ได้ จึงควรหาวิธีป้องตัวเองกันไว้ดีกว่าแก้

การป้องกันโรคหนองใน

การป้องกันโรคหนองใน ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง และหลีกเลี่ยงการนอนกับผู้ที่เป็นโรคติดต่อนี้อยู่ และไม่ควรทีจะเปลี่ยนคูนอนบ่อยเพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อ และควรรักษาทำความสะอาดร่างกายและอวัยวะเพศอยู่เสมอ

จากการป้องกันทั้งหมดของการมีเพศสัมพันธ์ในหมู่วัยรุ่น คือการใช้ถุงยางอนามัย และเมื่อรู้จักถึงวิธีป้องกัน การที่จะทำให้เกิดโรคติดต่อมากมายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเรา เพียงสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ก็ช่วยให้ท่านทั้งหลายอุ่นใจได้ขึ้นเยอะเลย

 

สนับสนุนโดย  ชุดตรวจ hiv

bookmark_borderเวท กับ คาร์ดิโอ ควรทำอะไรก่อน

สำหรับใครๆที่กำลังเริ่มที่จะดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกายอาจจะสิ่งที่สงสัยกันอยู่แน่นอน และคำถามที่เรามักจะเจอบ่อยๆเลยก็มี เวท กับ คาร์ดิโอ ควรทำอะไรก่อน? ถ้าเล่นเวทอย่างเดียวจะเป็นอย่างไร? ถ้าเล่นคาร์ดิโออย่างเดียวจะเป็นอย่าง?

เดี๋ยวเราจะมาพูดถึงประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้ลองมาแล้วนะคะ

ก่อนอื่นแล้วเราจะมาพูดถึงการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนั้นจะเป็นการออกกำลังกายที่หลายๆคนเลือกทำเพราะจะสามารถช่วยเผาผลาญไขมันออกจากร่างกาย ซึ่งจะต้องเป็นกีฬาประเภทที่ต้องอาศัยปอดเป็นอย่างมาก คาร์ดิโอนั้นมีหลากหลายชนิด วิ่ง ว่ายน้ำ เต้น โดยรวมแล้วกีฬาเกือบทุกประเภทถือว่าเป็นการเล่นคาร์ดิโอทั้งสิ้น ซึ่งการทำคาร์ดิโอให้ร่างกายดึงไขมันออกมาใช้เป็นพลังงานนั้นจะต้องมีอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในโซนที่2 หรือ เล่นประมาณ 30-45 นาทีขึ้นไป

หากเราทำคาร์ดิโออย่างเดียว ผลลัพธ์ที่ได้คือ ไขมันที่อยู่ในร่างกายเราจะหายไปจริง แต่หุ่นจะไม่เฟิร์ม เพราะการคาร์ดิโอนั้นได้ทำให้สูญเสียกล้ามเนื้อไปด้วย มาในส่วนของการเล่นเวท การเล่นเวทคือการสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งการเล่นจะมี 2 รูปแบบ คือ เวทแบบที่ต้องใช้อุปกรณ์ รูปแบบนี้จำเป็นต้องเข้าไปใช้บริการฟิตเนสหรือยิม และอีกรูปแบบคือ บอดี้เวท เป็นการใช้น้ำหนักในร่างกายของตัวเองในการเล่น

โดยรูปแบบนี้สามารถทำง่ายๆได้ที่บ้าน การเล่นเวทอย่างเดียวนั้นก็สามารถลดไขมันลงได้ เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปว่าเวทคือการสร้างกล้ามเนื้อ แต่เราจะต้องเล่นเวทให้หนักพอที่จะสร้างเนื้อมาทดแทนไขมันได้เช่นกัน สำหรับคนที่เล่นเวทนั้นจะแตกต่างจากคนเล่นคาร์ดิโอตรงที่ ผู้ที่เล่นคาร์ดิโอจะสามารถออกกำลังกายได้นานกว่าเพราะ คาร์ดิโอนั้นฝึกความแข็งแรงของปลอด คนที่เล่นคาร์ดิโอจะสามารถกำหนดการหายใจของตัวเองได้ แต่ในผู้ที่เล่นจะไม่สามารถทนความเหนื่อยได้นาน

แต่จะมีพละกำลังที่มากกว่าผู้เล่นคาร์ดิโอมาก เพราะผู้ที่เล่นนั้นจะถูกฝึกฝนในเรื่องของการยกน้ำหนัก สุดท้ายแล้วนั้นถ้าจะให้เป็นผลดีควรที่จะเล่นทั้ง 2 อย่าง เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญเขมันและสร้างกล้ามเนื้อมาแทนที่ แต่แล้วเราควรทำอะไรก่อนระหว่างเวท และ คาร์ดิโอ ต้องบอกเลยว่าควรที่จะเล่นเวทก่อนเพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรง เพราะถ้าหากคุณเล่นคาร์ดิโอก่อน จะทำให้รู้สึกเหนื่อย จนไม่อยากทำอะไรต่อแล้วหลังจากนั้น หรือถ้าคุณไม่อยากทำติดต่อกัน ก็ให้แบ่งเวลาทำเช้าและเย็น ซึ่งตรงนี้คุณก็สามารถกำหนดเองได้เลยว่าช่วงไหนจะทำอะไร เชื่อเถอะว่าคุณจะมีหุ่นที่สวยและสุขภาพดีขึ้น

 

สนับสนุนโดย  ติดเชื้อ HIVหายได้ไหม