bookmark_border3 ประโยชน์ที่เราควรรู้สำหรับการตรวจสุขภาพ

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าในสมัยปัจจุบันนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี เพราะรู้หรือไม่ว่าการที่เราเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีนั้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้เรารู้ทราบถึงสถานะภายในร่างกายของตนเอง

สำหรับการตรวจสุขภาพ ว่ามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงหรือไม่ เนื่องจากส่วนใหญ่ ในปัจจุบันนี้ร่างกายของคนเหล่านั้นมักที่จะอ่อนแอได้ง่าย

เพราะคนส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการทำลายสุขภาพร่างกายของตนเองโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์อยู่เป็นประจำ ร่างกายไม่ได้รับการออกกำลังกายหรือแม้แต่การใช้ชีวิตในประจำวันเองก็ตามก็เป็นหนึ่งในผลกระทบ ที่อาจส่งผลให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงได้

แถมโรคภัยไข้เจ็บในสมัยปัจจุบันนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาอีกด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่มองว่าการเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีนั้นไม่มีได้มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิต วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าประโยชน์ที่เราควรจะรู้สำหรับกันตรวจสุขภาพประจำปีนั้นมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้าย

แน่นอนว่าการที่เราเข้ารับการตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำนั้น จะทำให้เรารู้ทราบถึงสถานะร่างกายของตนเอง  เครื่องช่วยฟัง     เพื่อที่จะรู้ว่าร่างกายของเรานั้นมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายได้หรือไม่ แถมยังเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้ร่างกายของเรานั้นลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายได้อีกด้วย ดังนั้น การเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามหากเราอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง

  • ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพ

หากเรารู้ว่าร่างกายของเรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ไม่ดีและแข็งแรง ค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการรักษาพยาบาลนั้นอาจเป็นหนึ่งในปัญหาที่คนส่วนใหญ่มักที่จะมีปัญหากันอยู่บ่อยๆ ดังนั้น การตรวจสุขภาพประจำปีถือเป็นหนึ่งในการตรวจสุขภาพร่างกายเบื้องต้น เพื่อที่จะได้เตรียมความพร้อมสำหรับการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ

  • ลดอาการรุนแรงจากโรคร้าย

เมื่อไหร่ก็ตามที่รอเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีจะทำให้ร่างกายของเรานั้นรู้ทราบในระยะแรกของอาการต่างๆหรือโรคร้ายต่างๆที่อาจเกิดขึ้นซึ่งถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้เรานั้นรับมือและแก้ไขปัญหานี้ได้ทันเพื่อไม่ให้โรคร้ายหรือ ปราการที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเรานั้นรุนแรงมากยิ่งขึ้น

bookmark_borderเราเข้าใจได้ดีขึ้นว่าไม่มีสิ่งเดียวที่ทำให้คนเราสวยได้

สิ่งเดียวที่ทำให้คนเราสวยได้ งานจมูกลาดสกีทั้งหมดเริ่มต้นด้วยการฝึกอบรมศัลยแพทย์ตกแต่ง “คำสอนสอดคล้องกันอย่างมากว่าจมูก ‘ในอุดมคติ’ ควรมีลักษณะอย่างไร” ดร. วิลเลียมส์

ผู้ซึ่งสำเร็จการศึกษาด้านศัลยกรรมพลาสติกที่มหาวิทยาลัยเยลในปี 2548 กล่าว เมื่อเขาเป็นคนแรกและคนเดียวที่อาศัยอยู่ในคลินิกศัลยกรรมตกแต่งสีดำของเขา โปรแกรม. มาตรฐานของรูปทรงจมูกนี้ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งในวรรณกรรมที่ศัลยแพทย์ตกแต่งอ่าน จากนั้นจึงค่อยๆ ลดลงไปยังคนไข้ในขั้นตอนที่พวกเขาได้รับ

ในยุคนั้น ดร.วิลเลียมส์กล่าวต่อว่า “เป็นตัวอย่างของมุมมองของการทำศัลยกรรมพลาสติกและศัลยแพทย์พลาสติก และสิ่งที่เรากำลังบอกคนไข้ว่าพวกเขาควรคาดหวังและสิ่งที่พวกเขาคิดว่าสวยงาม” ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วิวัฒนาการของการทำศัลยกรรมเสริมความงามได้รวมเอาการเปลี่ยนแปลงมุมมอง

ซึ่งความคิดเห็นของผู้ป่วยเริ่มแพร่หลายมากขึ้น นั่นคือการอภิปรายเกี่ยวกับจมูกหรือหน้าอกที่พวกเขาต้องการจริงๆ แทนที่จะเป็นตัวเลือกที่พวกเขาควรจะต้องการ ดร. วิลเลียมส์ตั้งข้อสังเกตว่า “เราเข้าใจได้ดีขึ้นว่าไม่มีสิ่งเดียวที่ทำให้คนเราสวยได้”

ในอดีต ศัลยแพทย์ให้ความสำคัญกับการทำหัตถการอย่างประสบความสำเร็จและปลอดภัยเป็นอันดับแรก ดร. วิลเลียมส์กล่าว

เนื่องจากภาคสนามและการทดลองประเภทนี้ถูกครอบงำโดยศัลยแพทย์ผิวขาวเป็นหลัก และการศึกษาได้ดำเนินการกับผู้เข้าร่วมที่เป็นคนผิวขาวเป็นหลัก “การศึกษาทั้งหมดจึงเบ้ไปทางมาตรฐานความงามเดียว” ดร. บอยด์ ผู้เขียนร่วมการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Drugs in Dermatology

ศึกษาว่า “การรักษารูปแบบริ้วรอยบนใบหน้าของผู้หญิงผิวขาวนั้นมีการจัดทำเป็นเอกสารไว้อย่างดี [แต่] มีข้อมูลน้อยกว่ามากที่อธิบายถึงความต้องการด้านความงามของผู้ป่วยชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน”

ปัจจุบัน คนไข้เริ่มมองหาความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับความงามมากขึ้น ดร. วิลเลียมส์กล่าว และศัลยแพทย์สามารถเลือกทำหัตถการต่างๆ เช่น การผ่าตัดเสริมจมูกตามชาติพันธุ์และการผ่าตัดเสริมจมูกเพื่อรักษาคุณสมบัติเฉพาะของจมูกของผู้ป่วย “แต่เดิม การทำศัลยกรรมเสริมจมูกตามเชื้อชาติ

หลายครั้งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงหรือลดทอนคุณลักษณะบางอย่างที่อาจเป็นลักษณะเฉพาะของจมูก ชาติพันธุ์‘” เขาอธิบาย “ทั้งสองคำนี้สะท้อนถึงการให้เกียรติคุณลักษณะเฉพาะบางอย่าง เราจะไม่ลบล้างลักษณะทั้งหมดที่อาจเกี่ยวข้องกับจมูกของคุณ

แต่ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ดีจะจัดการกับข้อกังวลเฉพาะเพื่อให้บรรลุ ความสวยงามให้กับคนไข้รายนั้นๆ โดยไม่เพียงแค่พูดว่า เรารู้ว่าจมูกที่ดีเป็นอย่างไร และเราจะมอบให้คุณ‘”

ไม่ว่าคนไข้จะเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดริ้วรอยหรือยกกระชับใบหน้า เป้าหมายไม่ควรกลายเป็นคนอื่น ดร. บอยด์กล่าว งานยังคงต้องทำเพื่อให้แน่ใจว่าศัลยแพทย์ตกแต่งได้รับการศึกษาเกี่ยวกับมาตรฐานความงามที่หลากหลาย นี่คือสิ่งที่ Dr. Williams ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก เมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งประธาน ASPS ในเดือนตุลาคม

และพยายามที่จะต่อสู้กับสิ่งที่เป็นอุปสรรคเชิงโครงสร้างในการดูแลสุขภาพให้ประสบความสำเร็จ “เรากำลังทำงานในหลายๆ สิ่ง” เขากล่าว “เช่น การริเริ่มการเรียนรู้ดิจิทัลที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งจะช่วยให้การดูแลผู้ป่วยปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนมีวิทยากรและการสนทนาเชิงนวัตกรรมเกี่ยวกับความเท่าเทียมกันและความหลากหลายในด้านการทำศัลยกรรมพลาสติก”

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟัง

bookmark_borderการลงทะเบียนเต้านมเทียมแห่งชาติมีความจำเป็น

 

การลงทะเบียนเต้านมเทียม คณะกรรมการกลางศึกษาความเป็นไปได้ของฐานข้อมูลที่สนับสนุนการโต้เถียงจะปกป้องความปลอดภัยสาธารณะผู้ป่วยและแพทย์ต่างชื่นชมยินดีกับข่าวที่ว่าในที่สุดแคนาดาอาจมีทะเบียนระดับชาติสำหรับการปลูกถ่ายเต้านม โดยอธิบายว่าเป็นก้าวสำคัญสำหรับความปลอดภัยสาธารณะ แต่บอกว่ามันควรจะเกิดขึ้นนานแล้ว

ในระหว่างการประชุมเมื่อวันอังคาร คณะกรรมาธิการสภาสามัญด้านสุขภาพได้รับฟังการยื่นเสนอการศึกษาเพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้ในการสร้างทะเบียนทั่วประเทศ ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการสนับสนุนหลายปีของผู้หญิงที่ได้รับอันตราย และการสืบสวนร่วมกันจาก CBC, Radio-Canada และ Toronto Star เกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

จากการปลูกถ่าย ซึ่งอาจรวมถึงมะเร็งและโรคภูมิต้านทานผิดปกติ Julie Elliott ตัวแทนของสมาคมความปลอดภัยเต้านมเทียมในแคนาดา และโฆษกของสมาคมโรคและความล้มเหลวของเต้านมเทียมในแคนาดา กล่าวว่า การลงทะเบียนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกถ่ายทั้งหมดในประเทศนี้ล้าสมัยไปนานแล้ว

“สำหรับสิ่งที่ควรเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เต้านมเทียมเริ่มผลิตในปี 1964” ผู้ต้องสงสัยว่าได้รับบาดเจ็บนับพันรายที่เกี่ยวข้องกับเต้านมเทียมถูกเปิดเผยในการถ่ายโอนข้อมูลของผู้ผลิต การวิเคราะห์ CBC พบโดบมีการให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องแปลกที่สิ่งแปลกปลอมจะอยู่ในร่างกายมนุษย์โดยที่ผู้ป่วยและแพทย์ของพวกเขา  เครื่องช่วยฟัง   ไม่สามารถติดตามปัญหาใด ๆ ที่เกิดขึ้น

กับอุปกรณ์เหล่านั้นได้ ดโญการศึกษาความเป็นไปได้ของรัฐบาลกลางจะพิจารณาว่าข้อมูลใดบ้างที่อาจรวมอยู่ในการลงทะเบียนระดับชาติและวิธีการทำงานของข้อมูลเมื่อเข้าที่แล้ว Mark Johnson โฆษกของ Health Canada กล่าวว่าหน่วยงานของรัฐบาลกลางจะพิจารณาการศึกษาของคณะกรรมการและให้การตอบสนองอย่างเป็นทางการในเวลานั้

ขั้นตอนต่อไปใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียนเต้านมเทียมนั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ โครงสร้าง และการออกแบบเป็นอย่างมาก” จอห์นสันเขียนเป็นข้อความที่พบในอีเมล โดยอธิบายว่าการลงทะเบียนเต้านมเทียมเป็น “ความพยายามที่ซับซ้อน” ซึ่งต้องอาศัยการมีส่วนร่วมและการประสานงานจากรัฐบาลหลายระดับและสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีใครเต็มใจรับผิดชอบ

ผู้สนับสนุนบางคนโต้แย้งว่าการลงทะเบียนระดับชาติที่มีรายละเอียดของการปลูกถ่ายทุกรายการที่ทำในแคนาดาเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่านักวิจัยและผู้ป่วยสามารถติดตามความเจ็บป่วย การบาดเจ็บ และข้อมูลอื่นๆ ได้

Nancy Pratt กล่าวว่ามีการเรียกร้องให้ทำสิ่งนี้ย้อนหลังไปถึงปี 1990 แพรตต์ซึ่งเป็นประธานของสมาคมโรคเต้านมเทียมล้มเหลวและเจ็บป่วยในบี.ซี. ได้รับอันตรายอย่างถาวรหลังจากที่เต้านมเทียมที่เธอได้รับในปี 1990 แตกออก เธอทราบภายหลังว่าการปลูกถ่ายของเธอถูกเรียกคืน แต่ไม่มีใครแจ้งเธอ

ทุกคนหาเงินจากการปลูกถ่ายเต้านม และไม่มีใครเต็มใจรับผิดชอบในการติดตามพวกเขา” แพรตต์กล่าว สตรีที่ถอดเต้านมเทียมออกเรียกร้องให้ออตตาวาออกคำสั่งขึ้นทะเบียนอุปกรณ์การแพทย์ในเวลาต่อมา

bookmark_borderผลดีจากทุเรียน รับประทานให้พอดิบพอดี แล้วจะทราบว่าดีต่อร่างกายกว่าที่คิด

เดี๋ยวนี้จะไม่กล่าวถึงทุเรียนก็อาจจะมิได้ เนื่องจากบางคนเพียงแค่ออกมาจากบ้าน ก็มีรถยนต์หยุดขายทุเรียนอยู่ริมทางเยอะไปหมดให้ได้ดู ไหนจะกลิ่นที่เชิญให้รับประทาน ไหนจะรสหวานอร่อยที่รับประทานมากแค่ไหนก็หยุดมิได้ แม้กระนั้นการกินทุเรียนที่มากเกินไป ก็สร้างผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ วันนี้เราก็เลยขอเอาอกเอาใจผู้ที่ถูกใจรับประทานทุเรียน

ผลดีจากทุเรียน ด้วยประโยชน์ที่ได้ที่เกิดขึ้นจากการกินทุเรียนในจำนวนที่พอดีกัน ซึ่งการที่เราดินทุเรียนอย่างพอดีจะมีประโยชน์ที่ได้รับอย่างไรบ้างไปดูกันเลย

1.กระตุ้นการขับถ่าย

ด้วยเหตุว่าทุเรียนคือผลไม้ที่เต็มไปด้วยเส้นใยอาหารที่สูง ซึ่งจะมีใยอาหารอยู่ราวๆ 3-5% เลยแล้วแค่พันธุ์ของทุเรียน การกินทุเรียนก็เลยช่วยให้การขับถ่ายทำงานได้ดีมากขึ้น แม้กระนั้นไม่เสนอแนะให้รับประทานทุเรียนเพื่อหวังกระตุ้นการขับถ่าย เนื่องจากว่าจะมีผลให้ร่างกายได้รับอีกทั้งคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล รวมทั้งไขมันสูงไปด้วย

2.แก้อาการท้องร่วง

ในวิธีการแก้อาการท้องเสียด้วยทุเรียน สำหรับวิธีการของไทยแบบดั้งเดิมจะใช้รากทุเรียนสำหรับการแก้อาการท้องเสีย รวมถึงช่วยให้อาการดียิ่งขึ้น 

3.บำรุงสายตา

ทุเรียนมีเบต้าแคโรทีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุเรียนประเภทชะนีไข่แล้วก็พวงมณี จะให้เบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งสารอาหารจำพวกนี้มีส่วนช่วยบำรุงสายตา ป้องกันภาวะการเกิดโรคต้อกระจก แล้วก็ช่วยชะลอการเสื่อมของกระจกตาในกรุ๊ปผู้สูงวัย ซึ่งเนื้อทุเรียนที่มีสีเหลืองเข้มก็จะยิ่งเจอสารอาหารประเภทนี้อยู่เยอะมากขึ้น

4.บำรุงสมอง

ทุเรียนเต็มไปด้วยโฟเลต ที่ช่วยบำรุงรักษาสมอง ป้องกันโรคหลงๆลืมๆและก็โรคอัลไซเมอร์ได้

5.บำรุงผิวพรรณ

ทุเรียนหมอนทองมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอยู่ 2 ประเภทเป็นอนุมูอิสระไฮดรอกซิลและก็ไนตริกออกไซด์ ซึ่งอนุมูลอิสระทั้งสองประเภทนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เรามีผิวหน้าแก่ก่อนวัย การที่เราทำการกินอย่างพอดีก็ทำให้เรามีผิวที่อ่อนลงได้ด้วย

6.ต้านเชื้อแบคทีเรีย

สารโพลีแซคคาไรด์ เจล ที่ได้จากเปลือกทุเรียน มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียหลายประเภท ซึ่งการทดสอบที่นำเอาสารดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นมาปรับปรุงเป็นแผ่นฟิล์มปิดแผลจะพบว่า ช่วยรักษาแผลและก็ลดการอักเสบของแผลได้อย่างดีเยี่ยม

7.สมานแผล

เปลือกทุเรียนมีคุณประโยชน์ทางยาที่เป็นตัวช่วยในการรักษาขี้กลากเกลือน ช่วยรักษาแผล น้ำเหลืองดีขึ้น รักษาแผลพุพอง รวมทั้งแก้ฝีให้อาการดียิ่งขึ้น

8.แก้โรคผิวหนัง

โณคผิวหนังเราก็สามารถที่จะทำการใช้ทุเรียนทำการรักษาได้ดีขึ้นเช่นกัน ซึ่งเกิดจากการกินเนื้อทุเรียน ไม่ว่าจะเป็นโรคผิวหนังหรือทำให้ฝีหายเร็วขึ้น

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟัง

bookmark_border3 สาเหตุที่ทำให้ผมเราร่วง

ปัญหาผมร่วง ถือเป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนนั้นมีความกังวลใจ และหนักใจกันเป็นอย่างมาก เพราะการที่เรามีปัญหาเกี่ยวกับผมร่วง ผมบาง หัวล้าน

อาจทำให้เรานั้นเกิดการเลียความมั่นใจได้ แถมยังอาจทำให้เรานั้นมีการรักษาอาการที่ผิดวิธีจนส่งผลให้ผมเรานั้นร่วงหนักกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งต้องบอกก่อนว่าผมเราก็มักที่จะร่วงเป็นปกติอยู่แล้ว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมของเรานั้นร่วงหนักเกินไป อาจเป็นไปได้ว่าระบบรากผมของเราอาจถูกทำลายลง จนส่งผลให้ผมของเราร่วงออกมาเยอะ

ซึ่งปัญหานี้เองเป็นปัญหาที่ทำให้หลาย ๆ คนมีความกังวลว่าตนเองมีหัวล้าน หรือมีผมที่บางเกินไป นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าปัญหานี้จะเป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนเกิดความหนักใจ แต่ในปัจจุบันก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีการรักษา หรืวิธีการดูแล เพราะในปัจจุบันนี้มีวิธีการดูแลผมหลายวิธีมาก ๆ เพื่อให้เราได้หมดความกังวล อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับผม ไม่ว่าจะเป็นผมร่วง ผมบาง หรืออื่น ๆ วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นมีอะไรบ้างที่ทำให้เราผมร่วงได้ขนาดนี้ ไปดูกันเลย 

3 สาเหตุที่ทำให้ผมเราร่วง

อาจเกิดจากเชื้อรา เป็นไปได้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมของเราร่วงมากเกินไป อาจเกิดขึ้นได้จากการเป็นเชื้อราบนหนังศีรษะ หรืออาจเกิดกลากเกลื้อนบนหนังศีรษะของเราก็ได้ เพราะการที่หนังศีรษะของเรานั้นมีเชื้อรา หรือกลากเกลื้อก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เราผมร่วงได้ ซึ่งอาการนี้มักที่จะเป็นอาการที่หลาย ๆ คนมักมองข้าม เนื่องจากคิดว่าเป็นเพียงอาการคันธรรมดาที่เกิดขึ้นเท่านั้น 

อาจเกิดขึ้นจากหนังศีรษะอักเสบ อาการอักเสบของหนังศีรษะเกิดขึ้นจากการที่เรามักทำสีผม การเป่าผม หรือแม้แต่การเอาความร้อนเข้าใกล้หนังศีรษะ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราทำกิจวัตรประจำวันแบบนี้บ่อย ๆ นอกจากจะส่งผลเสียต่อหนังศีรษะของเราแล้ว ยังอาจทำให้หนังศีรษะของเราเกิดการอักเสบได้มากยิ่งขึ้นจากเดิมที่อักเสบอยู่แล้ว เพราะการที่หลังศีรษะของเราถูกสรเคมี หรือความร้อนเป็นประจำเวลานาน อาจส่งผลให้มีปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจทำให้เราผมของเราร่วงมากขึ้นนั่นเอง 

อาจเกิดขึ้นจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เรียกได้ว่าทำให้เรามีอาการผมร่วง หรือผมบางได้ เนื่องจากว่าหนังศีรษะของเรามีเชื้อแบคทีเรียเยอะ อาจส่งผลให้กระผลิตรากผม หรือเส้นผมนั้นทำงานไม่มีประสิทธิภาพ จนส่งผลให้ผมของเราบาง หรือมีการเจริญเติบโตที่ไม่ทันนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.  เครื่องช่วยฟัง

bookmark_borderแนวทางเลือก “ดื่มนม” ให้ดีและมีความเหมาะสมกับร่างกาย

“นม” ไม่ว่าจะเป็นนมประเภทไหน ย่อมมีคุณประโยชน์ต่อสถาพทางร่างกาย เว้นแต่ว่าคุณจะมีลักษณะแพ้นม (ซึ่งมีจำนวนหลายชิ้น แต่ว่ามิได้แพ้ที่ตัวนมโดยตรง เป็นองค์ประกอบในนมอีกต่างหาก) แต่กระนั้น เว้นแต่โปรตีนและก็แคลเซียมแล้ว นมแต่ละจำพวกให้ท่านค่าทางโภชนาการไม่เหมือนกันบางส่วน ถ้าเลือกดื่มอย่างถูกจำพวก ถูกทาง นมจะมีสาระต่อสุขภาพของเราอย่างยิ่งสุด

องค์ประกอบของนมโดยปกติในแต่ละประเภทเอาไว้ ดังต่อไปนี้

แนวทางเลือก-ดื่มนม ส่วนประกอบที่สำคัญของนมวัว

-น้ำ กว่า 87.8% ของนมวัวเป็นน้ำ

-กรดอะมิโนจำเป็น (โปรตีน)  เมื่อโปรตีนถูกย่อยในระบบทางเดินอาหารและก็แปลงเป็นกรดอะมิโน กรดอะมิโนนมวัวมีกรดอะมิโนจำเป็นจะต้องที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ รวมทั้งมีครบถ้วนสมบูรณ์มากยิ่งกว่านมที่มาจากพืช อาทิเช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ นมพิสตาชิโอ กรดอะมิโนจำเป็นต้องช่วยสร้างกล้ามแล้วก็ส่วนต่างๆที่ผุพัง

-คาร์โบไฮเดรต  คาร์โบไฮเดรตจะมาจากทั้งยังแป้งรวมทั้งน้ำตาล ในนมจะเจอได้ในลักษณะของน้ำตาลแลคโตส นี่เป็นหัวใจหลักของคนอีกหลายๆคนที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการแพ้นม เนื่องจากเป็นคนที่มีภาวการณ์พร่องโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีแลกเปลี่ยนเตส แต่ว่าเดี๋ยวนี้มีนมที่ไม่มีแลคโตสให้ได้ดื่มกันเป็นระเบียบแล้ว

-แคลเซียม  ในนมวัวมีแคลเซียมสูงถึง 204.67 มก.ต่อนมวัว 200 มล.

-ไขมัน  นมวัวมีไขมันอยู่ราว3-4% ถ้าเกิดผู้ใดไม่ต้องการที่จะอยากได้ไขมันมากจนเกินไป เดี๋ยวนี้มีนมพร่องมันเนยให้เลือกบริโภค

-นมจากพืช  นมที่ทำมาจากพืช จำนวนมากเป็นพืชเครือญาติถั่ว ร่างกายบางทีอาจดูดซับแคลเซียมได้น้อยกว่านมจากสัตว์ เพราะว่านมที่มาจากพืชมีสารจากธรรมชาติที่ชื่อว่า ไฟเตต (Phytate) ที่ขวางการดูดซึมแคลเซียมได้

-นมถั่วเปลือกแข็ง  เป็นนมที่มาจากถั่วเปลือกแข็ง ดังเช่นว่า นมอัลมอนด์ นมพิสตาชิโอ นมวอลนัท รวมทั้งนมแมคคาเดเมีย นมพวกนี้มีพลังงานไม่สูงมากมาย ไขมันอิ่มตัวต่ำ แต่ว่าจำนวนแคลเซียมกับโปรตีนจะน้อยกว่านมวัว

-นมถั่วเหลือง  นมถั่วเหลืองเป็นที่นมอย่างล้นหลาม ทั้งยังกับผู้ที่แพ้นมวัว รวมทั้งผู้ที่รักสุขภาพ เพราะว่าเป็นนมที่มีโปรตีนสูง แต่ว่าจำนวนของแคลเซียมอาจมีพอควร ถ้าหากอยากได้แคลเซียมมากเพิ่มขึ้น ให้เลือกสูตรเสริมแคลเซียม และก็ในบางแบรนด์บางทีอาจผสมน้ำมันพืชหรือนมผง

-นมข้าวโพด   นมข้าวโพดเป็นนมจากเมล็ดพืชที่มีไขมันต่ำที่สุด แต่ว่าก็มากับจำนวนน้ำตาลที่ค่อนข้างจะสูง โปรตีนต่ำ และไม่มีแคลเซียมเลย ยิ่งกว่านั้นยังสูตรที่ผสมถั่วเหลืองด้วย

วิธีเลือก “ดื่มนม” ให้เหมาะสมกับร่างกาย

  1. เราสามารถเลือกดื่มนมหลายประเภทสลับผลัดกันไปเพื่อได้สารอาหารที่นานาประการตามไปด้วย
  2. ถ้าเกิดมีปัญหาในเรื่องของสุขภาพ จำต้องควบคุมจำนวนน้ำตาลหรือไขมัน ก็ควรที่จะเลือกนมที่มีจำนวนน้ำตาลแล้วก็ไขมันต่ำ

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟัง

bookmark_borderคอลลาเจนหาได้จากไหนและกินยังไงให้ได้ผลดีที่สุด

       คอลลาเจน คือ เส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่ช่วยทำให้ผิวหนังเต่งตึง เรียบเนียน และยังช่วยให้กระดูกข้อต่อ มีความยืดหยุ่นไม่เปราะบางง่าย  ปกติแล้วคอลลาเจนเป็นสิ่งที่ร่างกายของมนุษย์สามารถสร้างขึ้นมาเองได้  หรือไม่ก็ได้มาจากอาหารทานเข้าไป แต่ถ้าอายุมากขึ้นเกิน 30 ปีขึ้นไป ร่างกายจะสังเคราะห์คอลลาเจนได้น้อยลง ยิ่งในคนที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ คนที่สูบบุหรี่ รวมถึงคนที่มีความเครียด คอลลาเจนจะเสื่อมสภาพหรือถูกทำลายได้ง่าย

     ถ้าร่างกายของคุณได้รับคอลลาเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการ จะเกิดผลกระทบทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น มีริ้วรอยดูแก่กว่าวัยอันควร เพราะฉะนั้นหลายคนจึงนิยมหาอาหารเสริมคอลลาเจนมากินเพื่อบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ

 เราจะหา “คอลลาเจน” ได้จากที่ไหนบ้าง

1.ร่างกายสร้างขึ้นมาได้เอง  โดยที่ร่างกายแต่ละคนจะสร้างคอลลาเจนออกมาได้ไม่เท่ากันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมหรือยีน ซึ่งสังเกตได้จากบางครอบครัวอาจจะดูแก่เร็ว บางครอบครัวก็ดูแก่ช้า  แต่ก็มีวิธีที่ช่วยกระตุ้นให้เซลล์สร้างคอลลาเจนออกมาได้มากๆ นั่นก็คือการออกกำลังกาย   เห็นได้จากคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอจะดูอ่อนเยาว์ไม่แก่ง่าย  

  1. อาหารที่กินเข้าไป เมื่ออายุเยอะขึ้นร่างกายจะสร้างคอลลาเจนได้ไม่ดีพอ เราสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มขึ้น โดยการเลือกทานอาหารที่มีคอลลาเจนจำนวนมากเข้าไป  ประเภทสัตว์ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทู เอ็นหมู เอ็นวัวและกระดูกอ่อน ประเภทผักเช่น  มะเขือเทศ แครอท คะน้า ผักโขม บล็อกโคลี ประเภทผลไม้ เช่นส้ม สตอเบอรี่ ราสเบอร์รี่ อะโวคาโด  สาร่ายทะเล ไข่ไก่ เห็ด เป็นต้น
  2. อาหารเสริม ถ้าหากคุณทานอาหารในหนึ่งวันไม่ครบ 5 หมู่ คอลลาเจนที่ได้รับอาจน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ   ดังนั้นจึงต้องหาตัวช่วยเช่นอาหารเสริมคอลลาเจนชนิดต่างๆที่มีขายตามท้องตลาดมากมาย  ซึ่งส่วนใหญ่มักทำมาจากหนังปลา เดร็ดปลา หนังวัว หนังหมู เป็นต้น

การกินคอลลาเจนที่ให้ได้ผลดีที่สุด

1.กินแล้วต้องดื่มตามไปมากๆ  นั่นก็เพราะคอลลาเจนต้องการสารละลายในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นหากเราดื่มน้ำน้อยจนไม่เพียงพอร่างกายก็จะไม่สามารถดูดซึมคอลลาเจนเอาไปใช้ได้

  1. ต้องกินคู่กันกับวิตามินซี เพราะวิตามินซีจะไปช่วยให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างรวดเร็ว

3.ในการกินคอลลาเจนชนิดเม็ด หรือ น้ำ เราจะต้องกินตอนเช้าขณะท้องว่างหรือก่อนกินข้าวเช้า 30 นาที เนื่องจากจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น แต่ไม่ควรกินเกิน 10,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะอาจให้เกิดอันตรายได้

      เพื่อรักษาคอลลาเจนให้อยู่ในร่างกายได้นานขึ้น เราก็ควรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันของเราเช่นทาครีมกันแดด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำมากๆ และออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟัง

bookmark_borderส่วนประกอบของหูมีอะไรบ้าง

ส่วนประกอบของหู แบ่งได้เป็น 3 ชั้น ซึ่งแต่ละส่วนมีหน้าที่ดังต่อไปนี้ 

1.) หูชั้นนอกประกอบด้วย ใบหู และช่องหู ซึ่งใบหูจะทำหน้าที่ป้องกันนสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคเข้าสู่รูหู และทำหน้าที่นำเสียงเข้าสู่รูหูอีกด้วย ส่วนของช่องหูด้านนอกจะมีขนและต่อมสร้างขี้หู ทำหน้าที่สร้างขี้หูซึ่งมีประโยชน์ออกมา ซึ่งหูชั้นนอกจะทำหน้าที่เหมือนเครื่องขยายเสียงและส่งผ่านเสียงไปยังหูชั้นกลาง 

2.) หูชั้นกลางประด้วย กระดูกชิ้นเล็กๆ 3 ชิ้น คือ กระดูกรูปค้อน(Malleus) กระดูกรูปทั่ง(Incus) และกระดูกรูปโกลน (Stapes)จะทำหน้าที่แปลงสัญญาณเสียงจากหูชั้นนอกที่มากระทบเยื่อแก้วหูให้เกิดการสั่นสะเทือนแล้วส่งต่อการสั่นสะเทือนเข้าสู่หูชั้นใน และนอกจากนี้หูชั้นกลางยังมีกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ป้องกันเสียงที่ดังมากๆไม่ให้เข้าไปทำลายหูชั้นใน 

3.) หูชั้นในประกอบไปด้วยส่วนรับฟังเสียงเรียกว่าคอเคลีย (Cochlea) มีลักษณะเป็นท่อขดเป็นรูปก้นหอยซึ่งจะมีของเหลวบรรจุอยู่ภายใน มีเซลล์ขนที่มีความไวต่อการตอบสนองของการสั่นสะเทือนโดยจะเชื่อมต่อกับเส้นประสาทรับเสียง แล้วส่งผ่านสัญญาณเสียงที่มาจากเซลล์ขนไปยังศูนย์กลางการได้ยินในสมอง และนอกจากนี้ภายในหูชั้นในจะมีโครงสร้างที่หน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมระบบการทรงตัวอของร่างกาย 

ส่วนมากจะเจออาการบาดเจ็บจากหูชั้นนอกมากที่สุด เนื่องจากเป็นบริเวณที่คนไข้สามารถแคะถึงโดยใช้ไม้แคะหูหรือไม้ปั่นหู คนไข้ส่วนมากเข้าใจผิดคิดว่าขี้หูเป็นสิ่งสกปรกจึงพยายามแคะหรือว่าเขี่ยออกมาแต่อันที่จริงแล้วนั้นขี้หูมีประโยชน์ ซึ่งจะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ทำให้สภาพสมดุลในช่องหูมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคน้อยลง 

ดังนั้นถ้าเกิดว่าเรามีอาการเจ็บป่วย มีการติดเชื้อของหูชั้นใดชั้นหนึ่งเราก็จะเรียกว่าโรคของหู นอกจากนี้แล้วอาการปวดหูอาจจะเป็นการปวดร้าวมาจากที่อื่น ๆ เพราะมีอวัยวะอื่นใกล้เคียงกันที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทเส้นเดียวกับที่เลี้ยงหู ก็คือเส้นประสาท

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟัง

bookmark_borderเครื่องช่วยฟัง

คุณรู้หรือไม่เครื่องช่วยฟังขนาดเล็กมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร

         หลายคนคงรู้มาบ้างแล้วว่าเครื่องช่วยฟังจะมาทำหน้าที่ช่วยให้เราได้ยินเสียงได้ชัดและดังขึ้น ซึ่งเครื่องช่วยฟังในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ หลายราคา  ซึ่งคนที่พบว่าตัวเองมีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยินเสียงและมีความจำเป็นจะต้องเลือกใช้ เครื่องช่วยฟัง สักอัน มักจะพบกับปัญหาที่ว่า เราควรจะเลือกเครื่องช่วยฟังแบบไหนดี ราคาประมาณที่ใช้แล้วไม่มีผลกระทบกับหูของเราในอนาคต ใช้เครื่องช่วยฟังแล้วจะได้ยินชัดขึ้นจริงไหม

หากซื้อ เครื่องช่วยฟัง ไปแล้วมีปัญหาจะทำอย่างไร อีกหลายคำถามที่คนที่จะต้องใช้เครื่องช่วยฟังครั้งแรกอยากรู้ อันที่จริงแล้วเครื่องช่วยฟังจะมี 3 แบบที่แบบหลักๆที่คนนิยมใช้กันอยู่ในขณะนี้ คือ แบบทัดที่หลังหู   กับแบบที่ใส่ในช่องหูและอย่างสุดท้ายแบบที่เป็นลำโพงในช่องหู ซึ่งสำหรับคนรุ่นใหม่วัยทำงานมักจะชอบเลือกเครื่องช่วยฟังประเภทแบบใส่ให้ช่องหู

เพราะมีขนาดเล็กที่สุดจะต้องมีการสั่งทำซึ่งต้องออกแบบมาเพื่อให้พอดีกับช่องหูของผู้ป่วยแต่ละคนและที่สำคัญเวลาที่เราหูฟังแบบใส่ในช่องหูแล้ว คนภายนอกมักจะมองไม่ออกว่าเรากำลังใช้เครื่องช่วยฟังอยู่เพราะเครื่องช่วยฟังจะมีขนาดเล็กมากและเราสามารถปล่อยผมลงมาให้ปิดบังตรงหูได้ทำให้คนข้างนอกมองไม่เห็นว่าเรากำลังใช้เครื่องช่วยฟังอยู่

ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาเครื่องช่วยฟังชนิดอยู่หรือยังติดสินใจไม่ได้ว่าจะใช้ดีหรือไม่ ลองมาดูข้อเสียของเครื่องช่วยฟังแบบใส่ในหูดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจเลือกอีกครั้งก็ได้ค่ะ

          สำหรับข้อดี คือ มีขนาดที่เล็กมาก ทำให้ซ่อนตัวจากสายตาคนรอบข้างได้ซึ่งจะทำให้ไม่มีใครรู้ว่าคุณกำลังใช้เครื่องช่วยฟังอยู่ ซึ่งเครื่องช่วยฟังแบบใส่รูหูจะไม่มีเสียงลมจากข้างนอกรบกวนเพราะมีใบหูกั้นเอาไว้  เป็นเครื่องช่วยฟังแบบไร้สาย ไม่ต้องมีสายมาคอยเกะกะสร้างความรำคาญและที่สำคัญเครื่องช่วยฟังประเภทนี้สามารถคุยโทรศัพท์ด้วยการเอามือถือแนบกับหูได้เลย ทำให้การใช้ชีวิตดูเหมือนคนปกติทั่วไป

          สำหรับข้อเสียของเครื่องช่วยฟังประเภทนี้คือ  จะเปลืองแบตเตอรี่มาก เพราะตัวเครื่องมีขนาดเล็กทำให้ต้องหมั่นเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยๆ และอย่างที่บอกว่าเครื่องมีขนาดเล็กดังนั้นลูกเล่นต่างๆจึงมีไม่มากเพราะไม่สามารถออกแบบปุ่มการทำงานที่ซับซ้อนมากๆได้ และที่สำคัญเครื่องช่วยฟังประเภทใส่ในหูนี้จะไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องการได้ยินเสียงมาก จะใช้ได้ดีกับคนที่มีปัญหาเรื่องการได้ยินเพียงเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น เพราะเครื่องมีขนาดเล็กตัวลำโพงต่างๆจงเล็กตามไปด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นทั้งขอดีและข้อเสียที่นำมาให้พิจารณาประกอบการตัดสินใจก่อนจะซื้อกันนะคะ